Junior สู่ Manager ในสายงานสุดนิช Character Marketing

เส้นทางการทำงานตั้งแต่ระดับ Junior ถึง Manager ในบริษัทคาแร็คเตอร์สุดแหวกแนว ที่นอกจากใช้ฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์แล้วในการทำงานทุกวันแล้ว ย้งต้องพิสูจน์ให้ธุรกิจไทยเห็นความสำคัญกับการ “ทำการตลาดผ่านคาแร็คเตอร์” อีกด้วย  เรื่องราวที่ฟังง่ายๆ แต่ก็ท้าทาย หาได้ที่คุณไมค์ หนึ่งในพนักงานยุคแรกของมินโตะ

  1. แนะนำตัว (เล่าเกี่ยวกับตัวเอง ตำแหน่งงาน และประสบการณ์ทำงาน)


สวัสดีครับ วณัส คะเนเร็ว หรือไมค์ครับ ผมทำงานอยู่ที่มินโตะมาแล้ว 4 ปี โดยเริ่มต้นจากตำแหน่ง B2B Business Development และ ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง Business Development Manager ครับ ดูแลในส่วนลูกค้าธุรกิจของมินโตะ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ B2B ครับ

  1. เหตุผลที่เลือกทำงานกับมินโตะ (รู้จักมินโตะจากที่ไหน อะไรทำให้ตัดสินใจสมัครงานที่มินโตะ)


แรกเริ่มเลยตอนนั้นเรายังไม่เป็นบริษัทมินโตะ โดยเราใช้ชื่อว่า Quan (ควอน) บริษัทดิจิตอลคอนเทนต์จากประเทศญี่ปุ่น ให้บริการการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร (Digital Marketing) และการตลาดที่ใช้คาแรคเตอร์ (Character Marketing) ตอนนั้นผมเองก็มองหางานด้าน Marketing อยู่แล้ว จากการศึกษาประวัติของบริษัทก็ได้รู้ว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจคาแรคเตอร์และการตลาดที่มีความน่าเชื่อถือ ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วบริษัทคาแรคเตอร์ก็ดูใหม่และน่าสนใจ เลยสมัครและก็เข้ามาทำงานที่นี่ ด้วยความรู้สึกที่คิดว่านอกจากงานด้าน Marketing แล้ว เราเองก็คงจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการครีเอทสิ่งต่างๆ จากประสบการณ์ทำงานก่อนหน้าด้วย ซึ่งพอมาทำงานก็ได้ใช้สกิลทั้งสองด้านของเราในการทำงานจริงๆ ความสนุกของการท้าทายงานแบบใหม่ๆ รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาเหมาะสมกับภาพลักษณ์บริษัทและความต้องการของลูกค้าไปพร้อมกัน

 

  1. ช่วยเล่ารายละเอียดการทำงานให้ฟังหน่อย (เล่ารายละเอียดการทำงาน ตำแหน่งหน้าที่ ทีมที่ทำงาน และประการณ์ต่างๆ ที่ได้จากการทำงานตำแหน่งนี้)


บริษัทมินโตะ เราเป็นบริษัทที่ผลิตคาแรคเตอร์และสินค้าต่างๆ ให้กับลูกค้าหรือว่าแผนก B2C ทว่าในขณะเดียวกันเอง ก็มีลูกค้าธุรกิจที่สนใจจะสร้างคาแรคเตอร์ประจำแบรนด์เช่นเดียวกัน ก็เป็นผลต่อมาว่าลูกค้าเข้ามาหาเราให้เราสร้างคาแรคเตอร์ให้ ต่อมานอกจากคาแรคเตอร์แล้วเราก็ดูแลด้านการตลาดให้กับแบรนด์ต่างๆ ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตรงนี้เราก็เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มลูกค้าแบบ B2B

เดิมทีแล้วบริษัทมินโตะใช้ชื่อว่า บริษัท ควอน อินเตอร์เนชั่นแนล ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วตอนนั้นมีสมาชิกประมาณ 10 คน เรียกได้ว่าหนึ่งบริษัทของเราเทียบเท่าหนึ่งทีม และด้วยความที่เราทั้งใหม่และเพิ่งเริ่มต้น ทำให้คนข้างนอกไม่รู้จักพวกเรา ไม่รู้ว่าบริษัทของเราทำอะไร รู้จักแต่ก๊อดจิแทน

ถ้าเทียบกับตอนนั้น ปัจจุบันบอกเลยว่าเราเติบโตขึ้นเยอะมาก มีพอร์ตจากการทำงานที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ ได้ร่วมงานกับบริษัทใหญ่อย่าง ปตท. อย่างก๊อดจิ ได้พบเจอกับลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงการร่วมงานกับภาครัฐในหลายกระทรวง ลูกค้าห้างสรรพสินค้าเองก็มีการคอลแลปต่างๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Siam Center หรือ The Mall มองจากการเติบโตของเราที่ผ่านมาก็พูดได้เลยว่าบริษัทของเราเป็นที่รู้จักในท้องตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่แน่นอนว่าเราจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ หลายๆ คนเองคงรู้อยู่แล้วว่าตลาดเอนเจนซี่เป็นตลาดที่มีการแข่งขังที่สูงมาก ดังนั้นเราเองก็ยังคงที่จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ

ในเรื่องของทีมต้องบอกเลยว่าเราเองก็มาไกลเหมือนกันจากทั้งบริษัททุกคนคือหนึ่งทีม
จนปัจจุบันเรามีการเพิ่มสมาชิกมินโตะมากขึ้น ได้แบ่งเป็นทีม B2B, B2C และ Marketing ได้อย่างชัดเจน บอกเลยว่าทุกการเดินทางมีความท้าทายและความสนุกที่ต่างกันออกไป การแบ่งทีมปัจจุบันก็มีข้อดีอย่างการที่ทำให้เราแบ่งสัดส่วนการทำงานมากขึ้น รู้จักการเป็น Ownershipมากยิ่งขึ้นไปด้วย แน่นอนว่าการแบ่งทีมอย่างชัดเจนก็ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้น ที่ท้าทายมากขึ้น แต่ทางบริษัทก็ไม่ใช่หวังแค่ยอดขายเพียงอย่างเดียว บริษัทเองก็พร้อมรับฟังและให้โอกาสเราในการลองทำสิ่งต่างๆ ขอแค่สิ่งนั้นสมเหตุสมผลเราก็สามารถเข้ามาคุยกันได้


เช่น เราอยากลองทำสิ่งนี้นะ แน่นอนว่าเราต้องเอายอดตัวเลขเข้ามาคุยกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือจุดหมายของการทำสิ่งนั้นมันชัดเจน บริษัทเองก็พร้อมจะให้พื้นที่เราในการลองทำเหมือนกัน

ภาพงาน MAE KHA Walk Rally 2023


  1. ตลอดการทำงานที่ผ่านมา คิดว่างานไหนเป็นงานที่ท้าทายมากที่สุด

ให้ 3 งานแบบไม่เรียงลำดับความท้าทายแล้วกันนะ งานแรกคือ “TK Park” เป็นงานแรกที่เข้ามา ซึ่งงานนนี้ได้ช่วยกันกับ ปิ๊ง (ดลวัฒน์ วิภาตะศิลปิน ตำแหน่ง Marketing Manager) พิทชิ่ง (Pitching) เพื่อให้งานนี้เกิดขึ้นมาได้ ตอนนั้นก็ยังไม่คุ้นชินกับการทำพรีเซนต์เพื่อเสนอภาครัฐ ก็ท้าทายและใหม่มากสำหรับพวกเรา ซึ่งงานในครั้งนั้นทำให้พอร์ตของบริษัทใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิม เป็นหนึ่งงานที่ปรับเปลี่ยนมุมมองของคนข้างนอกกับบริษัทมินโตะ ได้นำไปใช้ในการหางานมากขึ้น รวมไปถึงคอนเนคชั่นต่างๆ อีกด้วย
ต่อมาเป็นงานเกี่ยวกับ “ก๊อดจิ” เป็นคอนเทนต์บน Facebook และ Instagram 40 คอนเทนต์ต่อเดือน ในช่วงแรกก็ช่วยกันกับปิ๊ง ต่อมาก็ให้ปิ๊งช่วยดูแลต่อในช่วงหลัง สองงานแรกเป็นช่วงปีแรกๆ ของบริษัท ซึ่งหลังจากได้พอร์ตมาแล้วก็มีการพิทชิ่งค่อนเยอะปีหนึ่งก็ 10-20 ก็มีทั้งได้และไม่ได้บ้าง สนุกดีครับ

งานสุดท้ายเป็นงานของ สปสช. เป็นงานที่ท้าทายเพราะพอร์ตของบริษัทไม่ตรงซะทีเดียว มินโตะก็ไม่มี Developer เป็นของตัวเอง งบประมาณก็ค่อนข้างสูง เราเลยลองพิทชิ่งด้วยการเล่าถึงกระบวนการต่างๆ ในการทำงานของเราแทน โดยเบื้องหลังก็มาจากการช่วยหาข้อมูลมาซัพพอตจากทีมด้วย ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งที่ทำให้พอร์ตของบริษัทได้โตขึ้นอีกขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับความน่าเชื่อถือในตลาดมากขึ้นไปด้วย น่าจะเป็นงานที่ภูมิใจมากๆ อีกชิ้นหนึ่ง เพราะทางสปสช. ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Official Account in Public Sector จาก LINE Thailand Awards 2023 ด้วยครับ

  1. คิดว่าคาแรคเตอร์ให้อะไรกับเราบ้าง


ในตอนแรกเลยคิดว่าคาแรคเตอร์น่าจะมีความเป็นการ์ตูนที่ให้ความจรรโลงใจเรา แต่พอได้มารู้จักและทำงานแบบใกล้ชิดคาแรคเตอร์ทำให้รู้ว่า จริงๆ แล้วธุรกิจคาแรคเตอร์คือทุกสิ่งทุกอย่างตัวเรา คนเองก็เป็นคาแรคเตอร์ ถึงจะเห็นหน้าหรือไม่เห็นก็เป็นคาแรคเตอร์เหมือนกัน ทุกอย่างรอบตัวเราล้วนเป็นคาแรคเตอร์ ซึ่งการที่เราได้มารู้จักและทำงานเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี และก็สามารถนำไปต่อยอดกับให้เราได้เข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตัวเราได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกม ศิลปิน และก็อื่นๆ

อย่างมินโตะก็มีคาแรคเตอร์ที่ให้ความสดชื่นและสดใหม่ เหมือนกับคาแรคเตอร์ที่พึ่งจะออกใหม่ พอมองเข้ามาก็จะสัมผัสได้ถึงความสดใสและน่ารักเลยในทันที

  1. สำหรับคุณมินโตะมีความหมายอย่างไร


มินโตะ เป็นเหมือนโรงเรียน เพราะทั้งได้เรียนและสอนในที่เดียวกัน
ได้เรียนรู้การทำงานที่เยอะและหลากหลาย ได้เจอคนหลากหลาย ได้คุยกับหน่วยงานต่างๆ ได้ลองทำสิ่งใหม่ และก็จากผู้เรียนเริ่มก็กลายมาเป็นรุ่นพี่ ได้เอาประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนน้องๆ ในทีม เหมือนกับโรงเรียนที่ทำให้เราได้เติบโต ได้พัฒนาทักษะต่างๆ และประสบการณ์ทำงานที่ดีจากทั้งเพื่อนร่วมงานและลูกค้าต่างๆ เป็นอีกที่ที่ได้เจอกับสภาพแวดล้อมที่เฮลตี้ในการทำงาน

 อยากทำให้ บริษัท มินโตะ กลายเป็นบริษัทที่แค่พูดชื่อทุกคนก็รู้จัก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พวกเราสมาชิกมินโตะทุกคนกำลังทำในตอนนี้ และอยากให้เห็นผลในอนาคตในเร็วๆ นี้

โรงเรียนมินโตะยังคงเปิดรับอยู่เรื่อยๆ ใครที่สนใจ และพร้อมก้าวสู่ธุรกิจคาแร็คเตอร์ สามารถคอยติดตามข่าวสารได้ที่ www.minto-th.com และ Facebook Page: Minto Thailand

MOST NEWS