กราฟฟิกดีไซน์ผู้รับผิดชอบความน่ารักของ  Sugarcubs คู่รักที่หวานที่สุดใน Minto

ความสุขของการได้ทำงานใกล้ชิดกับตัวละครที่เรารัก เรื่องราวของเอเซีย ผู้รับผิดชอบคาแรคเตอร์ดัง Sugarcubs ในประเทศไทย

สวัสดีครับ ชื่อ เอเซีย นายเอเซีย  แฉล้มวารี ตำแหน่งงานที่ได้ทำก็คือกราฟฟิกดีไซน์ มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว 2 ปีสำหรับที่นี่ ซึ่งจริงๆ ที่ Minto ก็เป็นที่แรกของการทำงาน ถ้าไม่นับฝึกงานน่ะนะ เพราะตอนที่ฝึกงานไปฝึกที่สตูดิโอกราฟิกโดยเฉพาะ รูปแบบการทำงานและชิ้นก็มีจุดที่ต่างกันกับที่ Minto ค่อนข้างเยอะ

  1. เหตุผลที่เลือกทำงานกับมินโตะ ตอนนั้นยังอยู่ในช่วงโควิด แล้วเราก็พึ่งเรียนจบใหม่ ก็เลยลองหางานจากเฟซบุ๊กดู แล้วบังเอิญเห็นโพตส์รับสมัครกราฟิกของ Minto จากเฟซบุ๊กรุ่นพี่คนหนึ่ง เลยสมัครมาดู ถามว่าตอนนั้นรู้จัก Minto หรือเปล่า ก็บอกเลยว่าแค่พอรู้จักบ้าง เพราะเป็นสติ๊กเกอร์คาแร็คที่ใช้กันบ่อยบนเฟซบุ๊ก หลังจากสัมภาษณ์งานก็ได้เข้ามาทำงาน
  2. ช่วยเล่ารายละเอียดการทำงานให้ฟังหน่อย 
    อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ที่นี่ก็เป็นการทำงานที่แรกหลังจากฝึกงานและเรียนจบ ก็มีหลายๆ อย่างที่ได้ต่างกับประการณ์ตอนฝึกงานค่อนข้างเยอะ ถึงจะชื่องานด้านกราฟฟิกเหมือนกัน แต่ว่ากราฟฟิกเองก็มีหลายรูปแบบงาน อย่างตอนพึ่งงานจะเน้นหนกไปในการทำโมชั่นดีไซน์ แต่พอได้มาทำงานจริง หลักๆ จะเป็นงานวาดและสร้างสรรค์เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ซะมากกว่า ช่วงแรกที่เข้ามาทำงาน รูปแบบของงานก็จะเน้นไปด้านการซัพพอตมากกว่า และก็มีได้ออกแบบคาแรคเตอร์งานลูกค้าฝั่ง B2B จากนั้นบริษัทก็มีการแบ่งแผนก ก็ทำงานในฝั่งของ B2C เป็นหลัก ได้เริ่มทำงานที่ใหญ่มากขึ้น จนมาถึงปัจจุบันที่ได้รับหน้าที่ดูแลคาแรคเตอร์ Sugarcubs และ Re-per ของบริษัท

    การดูแลคาแรคเตอร์เองก็มีตั้งแต่การทำคอนเทนต์ออนไลน์ตั้งแต่ภาพไปจนถึงวิดีโอโมชั่นลงในแฟตฟอร์มต่างๆ รวมไปถึงการออกแบบสินค้าสำหรับคาแรคเตอร์นั้นๆ บอกเลยว่าเป็นงานที่ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่ได้ทำ

  3. เพราะว่าเป็นงานแรก เลยอยากรู้ว่าปรับตัวอย่างไรบ้าง สังคมการทำงานกับการเรียนแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน
    การทำงานเองก็มีหลายครั้งที่ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น ในช่วงแรกรูปแบบการทำงานเป็น Work form home ด้วยก็เลยรู้ว่าไม่ได้ได้กดดันเท่าไหร่ พอมาช่วงหลังรวมถึงช่วงนี้ ก็กลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ ก็ยอมรับเลยว่ามีเรื่องให้ปรับตัวค่อนข้างเยอะ พื้นฐานเป็นคนที่พูดไม่เก่งด้วย แต่ก็ผ่านได้เพราะพี่ๆ ที่ Minto ช่วยละลายพฤติกรรมตั้งแต่ตอนเริ่มทำงาน เลยไม่ยากเท่าที่คิด ถ้าถามว่าต่างกับที่เรียมากหรือเปล่า ก็ต่างอยู่ เพราะอย่างตอนฝึกงานจะได้ทำคาแรคเตอร์น้อยมาก แต่ปัจจุบันทำงานคาแรคเตอร์เป็นหลัก แต่ถ้าพูดถึงความสร้างสรรค์ในการทำงานก็คิดว่ายังเหมือนกันอยู่
  4. การทำงานกับสองคาแรคเตอร์มีความยากง่ายแตกต่างกันแค่ไหน แล้วงานไหนเป็นงานที่ท้าทายมากที่สุด
    แพทเทิร์นของการทำงาน Sugarcubs ก็จะมาสายหวานเลย ทุกอย่างจะเน้นไปทางน่ารัก และก็จะทำงานกับสไตล์ไกด์และจำนวนที่แน่นอนของคอนเทนต์ในแต่ละเดือน หน้าต้องหันแบบนี้ ตาต้องมองแบบนี้ สีต้องแบบนี้เท่านั้น ซึ่งจะต่างกับของ Re-per ที่เราจะเน้นให้คาแรคเตอร์มีความเป็นศิลปิน ด้วยความที่คาแรคเตอร์เองก็จะเป็นสายแฟชั่นสตรีทอยู่แล้ว คอนเทนต์ที่ลงจะเน้นไปตามอารมณ์หรือสถานการณ์ ณ เวลานั้น พูดก็ดูเหมือนไม่มีแพทเทิร์นของการทำงาน แต่จริงๆ แค่มีแพทเทิร์นที่ต่างกันเฉยๆ ถ้าถามว่างานไหนเป็นงานที่ท้าทายมากที่สุด ขอคิดเป็น 3 งาน ตามไทม์ไลน์อายุงานแล้วกัน งานแรกก็ต้องเป็นการทำสินค้าของ Sugsrcubs เพราะว่าการทำงานที่ต้องมีการประสานงานด้วย มีการทำงานไม่ใช่แค่กับคลีเอทีฟ และต้องมีการตรวจสอบโดยประเทศญี่ปุ่นด้วย ก็ทำงานเน้นความถูกต้อง เฉดสี ลายเส้นต่างๆ รวมถึงต้องแข่งกับเวลาในบ้างครั้งด้วย

    งานที่สองเป็นการสร้างคาแรคเตอร์ Re-per ขึ้นมา เพราะเป็นการทำงานใหญ่ครั้งแรก และเป็นงานที่ได้เริ่มต้นตั้ง 0 ของจริง ค่อยๆ ปั้นกันขึ้นมากับพี่ในทีมและก็พี่ชินโตะ (นายชินโตะ โอคูกาวา ตำแหน่ง Managing Directer) มีการลองผิดลองถูกหลายอย่างจนสุดท้ายก็ได้ Re-per ขึ้นมา งานสุดท้ายที่คิดว่ายากและท้าทายที่สุดคือ OMP (Oh my pop shop) เป็นงานแรกที่ได้สร้างแบรนด์ดิ้ง ต้องมองภาพใหญ่มากขึ้น อย่างตอนทำ Re-per เราสร้างแค่ 1 คาแรคเตอร์ขึ้นมาใหม่ แต่ OMP เป็นการสร้างคาแรคเตอร์ของแบรนด์ และคาแรคเตอร์ที่จะมาเป็นภาพจำของแบรนด์ด้วย เป็นงานที่ยากและท้ายสุดๆ เลยในตอนนั้น แต่พอผ่านมาแล้วก็คิดว่าสนุกดีที่ได้ทำ

  5. สำหรับคุณมินโตะมีความหมายอย่างไร
    สำหรับเราคิดว่าการทำงานกับคาแรคเตอร์เป็นบทเรียนลัดที่ทำให้เติบโตขึ้น ทั้งสกิลการทำงาน ประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงเวลาที่ต้องใช้ไปกับการทำงาน เพราะงั้นเลยคิดว่า Minto ก็คงเป็นเหมือนสถาบันกวดวิชา ที่ทำให้ได้เจอกับบทเรียนลัดที่จะทำให้เราโตขึ้นแบบก้าวกระโดด และก็ยังได้พบเจอผู้คนที่หลากหลายด้วย เพราะเราทำงานกันไม่ใช่แค่ในทีม แต่เป็นการทำงานร่วมกันทั้งบริษัททั้งในและนอกประเทศ เหมือนที่เรียนพิเศษที่ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน เข้าใจ และอยากเดินทางไปกับเรา

    สถาบันกวนวิชามินโตะยังคงเปิดรับอยู่เรื่อยๆ ใครที่สนใจ และพร้อมก้าวสู่ธุรกิจคาแร็คเตอร์ สามารถคอยติดตามข่าวสารได้ที่ www.minto-th.com และ Facebook Page: Minto Thailand

 

MOST NEWS